วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Project Management 20/11/2011


  1. คำถามที่ 1 เอกสาร power point หน้า 13 มีกี่เส้นทาง ที่เป็นไปได้ และเส้นทางใดเป็น critical path พร้อมบอกระยะเวลาที่วิกฤติ
             จากภาพ มีทั้งหมด 3 เส้นทางที่เป็นไปได้คือ

  • A < D < I =0+3+8+6
  • B < E < G  < J = 0 +5+5+4+4
  • C < F < H < J =0+7+5+5+4



               วิเคราะห์หาวิถีวิกฤตของข่ายงาน วิถีวิกฤตของข่ายงานประกอบด้วยกิจกรรม C, F, H และโดยมีเวลาแล้วเสร็จของโครงการเท่ากับ 21 วัน
          
            2.   คำถามที่ 2 ท่านคิดว่า CPM กับ PERT ต่างกันอย่างไร หน้า 19 กับ 26
  
                      ทั้งสองเป็นเทคนิคการวิเคราะห์กิจกรรมในการประเมินความเป็นไปได้ ใช้สำหรับโครงการที่มีกิจกรรมขนาดใหญ่ มีกิจกรรมย่อย ๆ หลายกิจกรรม  ใช้เทคนิคการวิเคราะห์แบบเครือข่ายหรือโครงข่าย
                      ข้อแตกต่างชัดเจนระหว่าง PERT และ CPM คือ เวลาในการทำกิจกรรม กล่าวคือ เวลาในการทำกิจกรรมของ PERT จะเป็นเวลาโดยประมาณซึ่งคำนวณได้ด้วยการใช้ความน่าจะเป็น PERT จึงใช้กับโครงการที่ไม่เคยทำมาก่อน หรือโครงการซึ่งไม่สามารถเก็บรวบรวมเวลาของการทำกิจกรรมได้ เช่น โครงการพัฒนาวิจัย ส่วน CPM นั้น เวลาที่ใช้ในกิจกรรมจะเป็นเวลาที่แน่นอน ซึ่งคำนวณได้จากข้อมูลที่เคยทำมาก่อน เช่น อัตราการทำงานของงานแต่ละประเภท อัตราการทำงานของเครื่องจักร เป็นต้น CPM จึงใช้กับโครงการที่เคยทำมาก่อน ซึ่งมีความชำนาญแล้ว  

                                
CPM (Critical Path Method)
                                    -ใช้วางแผนควบคุม
                                    -ผู้วางแผนควรมีประสบการณ์
                                    -ต้องทราบรายละเอียด เวลา ทรัพยากรล่วงหน้า 

                                    -เวลาแต่ละงานแน่นอน และมีค่าเดียว 

                                PERT(Program Evaluation and Review Technique)
                                    -ใช้ปรับปรุง วางแผนประเมินงานใหม่ ๆ
                                    -ผู้ดำเนินงานไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์
                                    -มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดงานบ่อย
                                    -เวลา ไม่แน่นอน มี 3 ค่า  
จกรรมแล้วเสร็จได้เร็วที่สุด (optimistic time),กิจกรรม
                                            แล้วเสร็จได้ช้าที่สุด (pessimistic time) ทำกิจกรรมแล้วเสร็จ
                                            (most pikely time) ทำให้ทราบถึงเวลาแล้วเสร็จของโครงการว่าเป็นเท่าใด
                                            และกิจกรรมใดบ้างที่อยู่ในวิถีวิกฤต ซึ่งจะทำไปสู่การวางแผนตัดสินใจเพื่อ
                                            ควบคุมโครงการ หรือเร่งรัดโครงการต่อไป



                                

วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ระบบหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินยางสักกระโพหลุ่ม


ระบบหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินยางสักกระโพหลุ่ม



โครงการ                    ระบบหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินยางสักกระโพหลุ่ม                        
หน่วยงานรับผิดชอบ     โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยางสักกระโพ-หลุ่ม อำเภอม่วงสามสิบ
                  จังหวัด อุบลราชธานี


1.1  หลักการและเหตุผล

             หน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยางสักกระโพ-หลุ่ม อำเภอม่วงสามสิบ  จังหวัดอุบลราชธานี ให้บริการประชาชนในเขตรับผิดชอบตั้งแต่เดือนตุลาคม 2549 เป็นต้นมา ตามโครงการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานีกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี โดยรถพยาบาลของหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินและวิทยุสื่อสารประจำรถ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานีเป็นผู้สนับสนุน การฝึกอบรมพนักงานกู้ชีพฉุกเฉินตามหลักสูตรเวชกรฉุกเฉินระดับพื้นฐาน (EMT-B) หลักสูตร 110 ชั่วโมง และอุปกรณ์ทางการแพทย์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานีรับผิดชอบ ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับอุบัติเหตุ และการเจ็บป่วยฉุกเฉินที่ล่าช้าไม่ได้รับการช่วยเหลือการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพอย่างทันท่วงที หน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยาง-สักกระโพหลุ่ม มีพนักงานกู้ชีพ 6 คน ผ่านการอบรมหลักสูตร EMT-B จำนวน 4 คน และผ่านการอบรมชุดปฏิบัติการปฐมพยาบาล FR จำนวน 2 คน มีผลการดำเนินงานเฉลี่ยเดือนละ 95 ราย  รับผิดชอบ 4 ตำบล คือ ตำบลยางสักกระโพหลุ่ม ตำบลหนองไข่นก ตำบลโพนแพง และตำบลเตย จำนวน 40 หมู่บ้าน  ประชากร 27,500 คน ในการนี้ให้บริการทุกครั้งพนักงานกู้ชีพจะต้องบันทึกรายงานการให้บริการในแบบฟอร์มรายงาน  และรายงานแจ้งศูนย์สั่งการทันทีหลังจากเสร็จสิ้นการส่งผู้ป่วยและกลับถึงที่ตั้งหน่วย ทุกวันที่ 20 ของเดือนพนักงานกู้ชีพจะต้องจัดทำรายงาน ส่งที่ศูนย์สั่งการเพื่อขอเบิกเงินค่าตอบแทน ปัญหาที่พบในการปฏิบัติของพนักงานกู้ชีพ คือ การรวบรวมรายงานที่มีความซ้ำซ้อน ไม่ครบถ้วน อ่านการวินิจฉัยโรคของแพทย์หรือพยาบาลไม่ถูกต้อง และไม่ได้รวบรวมข้อมูลการให้บริการมาวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาตนเองและตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพมากที่สุดเพื่อให้เกิดความพึงพอใจของผู้รับบริการ 
ดังนั้นจึงได้จัดทำและพัฒนาโปรแกรมระบบฐานข้อมูลการให้บริการของหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยในการเก็บข้อมูลและประมวลผลรายงานเพื่อให้ระบบข้อมูลมีคุณภาพครบถ้วน สามารถนำไปใช้การพัฒนาการให้บริการ เพื่อให้พนักงานกู้ชีพมีความสะดวกและรวดเร็วในการรวบรวมรายงาน
1.2  วัตถุประสงค์
                        1.2.1   เพื่อช่วยในการเก็บข้อมูลและประมวลผลรายงานเพื่อให้ระบบข้อมูลมีคุณภาพครบถ้วน
  1.2.2  เพื่อนำไปใช้การพัฒนาการให้บริการ
  1.2.3  เพื่อให้พนักงานกู้ชีพมีความสะดวกและรวดเร็วในการรวบรวมรายงาน
  1.2.4  เพื่อให้การดำเนินงานได้มาตรฐาน  ครอบคลุม และมีความยั่งยืน

1.3  ขอบเขตของระบบงาน

                     การพัฒนาโปรแกรมระบบฐานข้อมูลหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ให้เป็นที่เก็บรวบรวมข้อมูลการให้บริการของหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินยางสักกระโพหลุ่ม ผู้จัดทำโครงการได้พิจารณาแล้วเห็นว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
                     1.3.1  ผู้ดูแลระบบ
                                1.3.1.1  สามารถตั้งค่าหน่วยบริการได้
                                1.3.1.2  สามารถเพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมูลผู้ใช้งานระบบได้
                     1.3.2  เจ้าหน้าที่
                                1.3.2.1  สามารถค้าหา เพิ่ม ลบ  แก้ไข้ ข้อมูลหลัก  ซึ่งได้แก่  ข้อมูลประชากร  ข้อมูลเจ้าหน้าที่   ข้อมูลรถ    และคู่มือการวินิจฉัยโรค  ได้
                              1.3.2.2  สามารถนำข้อมูลตามแบบบันทึกบริการการแพทย์ฉุกเฉินมาบันทึกลงในระเบียน  สามารถเพิ่ม ลบ แก้ไขข้อมูลได้
                              1.3.2.3  สามารถประมวลผลรายงานและพิมพ์รายงานต่างๆ  เพื่อนำส่งไปยังศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน อุบลราชธานีและจัดเก็บข้อมูลเป็นหมวดหมู่ได้

1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

       1.4.1  มีสะดวกรวดเร็วในการเก็บข้อมูลประมวลผลรายงานเพื่อให้ระบบข้อมูลมีคุณภาพครบถ้วน
                       1.4.2  สามารถนำข้อมูลไปใช้การพัฒนาการให้บริการได้
                       1.4.3  มีความสะดวกและรวดเร็วในการรวบรวมรายงาน
                       1.4.4  การดำเนินงานได้มาตรฐาน  ครอบคลุม และมีความยั่งยืน
                        1.4.5 สามารถนำโปรแกรมไปประยุกต์ใช้งานบนโทรศัพท์มือถือได้

1.5  ระยะเวลาดำเนินการ




1.6   สถานที่ดำเนินการ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยางสักกระโพ-หลุ่ม อำเภอม่วงสามสิบ
                  จังหวัด อุบลราชธานี
                 
                  1.7 วิธีการดำเนินงานโครงงาน

                  1.7.1.  ศึกษาค้นคว้าทฤษฎีและผลงานที่เกี่ยวข้อง                                  
               1.7. 2.  กำหนดขอบเขตและเป้าหมายของโครงงาน
               1.7.3.  ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของระบบ
               1.7.4.  วิเคราะห์และออกแบบฐานข้อมูลของระบบทั้งหมด
               1.7.5.  ออกแบบและพัฒนา ระบบ
               1.7.6.  เขียนโปรแกรมระบบและทดสอบปรับปรุงระบบ
               1.7.7.  จัดทำเอกสาร คู่มือการใช้
               1.7.8.  นำเสนอโครงการ

1.8   งบประมาณ
ใช้งบประมาณจากข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามความจำเป็น และเป็นไปโดยประหยัด
1.9     ผู้รับผิดชอบ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยางสักกระโพ-หลุ่ม อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี


1.10     ผู้เขียนโครงการ

( นายอนุสรณ์  อุ่นท้าว)
ผู้เขียนโครงการ

1.11  ผู้พิจารณาและตรวจสอบโครงการ
ความเห็นผู้พิจารณาและตรวจสอบโครงการ....................................................................

(                                           )
หัวหน้าส่วนฝ่ายบริการ
                 1.12  ผู้อนุมัติโครงการ
ความเห็นผู้อนุมัติโครงการ........................ .......................................................................

(                                        )
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยางสักกระโพ-หลุ่ม



วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การบ้านสัปดาห์ที่ 1: ฟัง vcd แล้ว สรุปประเด็นเกี่ยวกับคำว่าโครงการ


ดูvcd การบรรยายของท่านองคมนตรีเกษม วัฒนชัย ทั้ง. 5 ตอนใน post FB ของผม แล้วสรุปว่าได้ทราบในประเด็นบ้างที่เกี่ยวกับคำว่าโครงการ
คำว่า โครงการ
โครงการ คือ : กิจกรรมหรือแผนงานที่เป็นหน่วยอิสระหนึ่งที่ สามารถทำการวิเคราะห์วางแผน และนำไปปฏิบัติ พร้อมทั้งมีลักษณะแจ้งชัดถึงจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด โดยแผนสำหรับกิจการต่างๆ ต้องระบุวัตถุประสงค์ตามระยะเวลาที่กำหนด
โครงการ คือ : การวางแผนล่วงหน้าที่จัดทำขึ้นอย่างมีระบบประกอบด้วยกิจกรรมย่อยหลายกิจกรรมที่ต้องใช้ทรัพยากรในการดำเนินงาน และคาดหวังที่จะได้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า
แต่ละโครงการมีเป้าหมายเพื่อการผลิตหรือการให้บริการเพื่อเพิ่มพูนสมรรถภาพของแผนงาน ดังนั้นโครงการ จึงเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง ของการวางแผนที่จะทำให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมาย
โครงการ คือ : กิจกรรมหรือแผนงานที่เป็นหน่วยอิสระหนึ่งที่ สามารถทำการวิเคราะห์วางแผน และนำไปปฏิบัติ พร้อมทั้งมีลักษณะแจ้งชัดถึงจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด โดยแผนสำหรับกิจการต่างๆ ต้องระบุวัตถุประสงค์ตามระยะเวลาที่กำหนด
โครงการ คือ : การวางแผนล่วงหน้าที่จัดทำขึ้นอย่างมีระบบประกอบด้วยกิจกรรมย่อยหลายกิจกรรมที่ต้องใช้ทรัพยากรในการดำเนินงาน และคาดหวังที่จะได้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า
แต่ละโครงการมีเป้าหมายเพื่อการผลิตหรือการให้บริการเพื่อเพิ่มพูนสมรรถภาพของแผนงาน ดังนั้นโครงการ จึงเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง ของการวางแผนที่จะทำให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมาย
ลักษณะของโครงการที่ดี
-          สามารถแก้ปัญหาขององค์การหรือหน่วยงานนั้น ๆ ได้
-          มีรายละเอียด วัตถุประสงค์เป้าหมายต่าง ๆ ชัดเจน สามารถดำเนินงานได้ มีความเป็นไปได้
-          กำหนดขึ้นอย่างมีข้อมูลความจริง(มีสถิติ ตัวเลข ข้อมูลจากองค์กรดังกล่าว)และเป็นข้อมูลที่ได้รับการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ
-          อ่านแล้วเข้าใจว่านี้คือโครงการอะไร มีประโยชน์อย่างไร ทำไปเพื่ออะไร มีขอบเขตการทำแค่ไหน
-          มีระยะเวลาในการดำเนินงานแน่นอน ระบุวันเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุด
-          สามารถติดตามประเมินผลได้

จากที่ได้ฟังจาก vcd ทั้ง 5 ตอน พอสรุปที่ได้ประเด็นที่เกี่ยวกับโครงการได้ดังนี้
1. ประเด็นในเรื่องของหลักการทรงงาน ประเด็นนี้จะเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับโครงการคือ
-หลักคิด โดย หลักคิด จะทำให้รู้ว่า เราจะทำอะไร เพื่อประโยชน์อะไร ในทำนองเดียวกัน ว่าเราจะทำโครงการ เกี่ยวกับอะไร ทำโครงการนี้เพื่อประโยชน์อะไร
- หลักวิชา จะทำอย่างไรจึงจะถูกต้อง ประหยัด และได้ผล เหมือนเป็นการหาวิธี หรือหาข้อมูลเพื่อจะทำงาน เหมือนเราจะทำโครงการอะไร เราก็ต้องมีวิธี หรือแนวทางเพื่อนำปฏิบัติเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
-หลักปฏิบัติ ก็คือวิธีปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ และสามารถนำประเมินผลได้ ซึ่งโครงการที่ดีก็ต้องสามารถปฏิบัติได้และสามารถประเมินผลได้
2. ประเด็นในเรื่องการทำงานอย่างผู้รู้จริง ต้องมีศึกษาข้อมูลรายละเอียดอย่างรอบคอบและครบถ้วน เพื่อให้เข้าใจและสามารถลงมือปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ตรงตามวัตถุประสงค์
ข้อคิดเห็น : ทุกประเด็นที่ท่านองคมนตรีเกษม วัฒนชัย ที่ได้กล่าวมาใน vcd ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเข้าใจ เข้าถึง การพัฒนา หรือแม้แต่การ รู้รัก สามัคคี ล้วนมีส่วนที่เกี่ยวกับการทำโครงการให้ประสบผลสำเร็จ และ ยังสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย